ข้าวพันธุ์ กข 6

ชนิด : ข้าวเหนียว

ประวัติพันธุ์ :
ปรับปรุงพันธุ์ โดยการใช้รังสีชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ โดยใช้รังสีแกมมาปริมาณ 20 กิโลเรด อาบเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 แล้วนำมาปลูกคัดเลือกที่สถานีทดลองข้าวบางเขนและสถานีทดลองข้าวพิมาย จากการคัดเลือกได้ข้าวเหนียวหลายสายพันธุ์ในข้าวชั่วที่ 2 นำไปปลูกคัดเลือกจนอยู่ตัวได้สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงสุดคือ สายพันธุ์ KDML105´65-G2U-68-254 นับว่าเป็นข้าวพันธุ์ดีพันธุ์แรกของประเทศ ที่ค้นคว้าได้โดยใช้วิธีชักนำพันธุ์พืชให้เปลี่ยนกรรมพันธุ์โดยใช้รังสี

การรับรองพันธุ์ : กรมวิชาการเกษตร มีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2520

ลักษณะประจำพันธุ์ :

  1. เป็นข้าวเหนียว สูงประมาณ 154 ซม.
  2. ไวต่อช่วงแสง
  3. ทรงกอกระจายเล็กน้อย ใบยาวสีเขียวเข้ม ใบธงตั้ง เมล็ดยาวเรียว
  4. เมล็ดข้าวเปลือกสีน้ำตาล
  5. อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 21 พฤศจิกายน
  6. ระยะพักตัวของเมล็ดประมาณ 5 สัปดาห์
  7. เมล็ดข้าวเปลือก ยาว x กว้าง x หนา = 9.9 x 2.7 x 2.0 มม.
  8. เมล็ดข้าวกล้อง ยาว x กว้าง x หนา = 7.2 x 2.2 x 1.7 มม.
  9. คุณภาพข้าวสุก เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม

ผลผลิต : เฉลี่ย 666 กิโลกรัมต่อไร่

ลักษณะเด่น :

  1. ให้ผลผลิตสูงและทนแล้งดีกว่าพันธุ์เหนียวสันป่าตอง
  2. คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม
  3. ลำต้นแข็งปานกลาง
  4. ต้านทานโรคใบจุดสีน้ำตาล
  5. คุณภาพการสีดี

ข้อควรระวัง :

  1. ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และโรคไหม้
  2. ไม่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และแมลงบั่ว

พื้นที่แนะนำ : ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สมบัติของดินที่เหมาะสม – ดินร่วน ดินร่วนเหนียว ดินเหนียว หรือดินร่วนเหนียวปนทราย – มีการระบายน้ำ และถ่ายเทอากาศดี – ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง – ค่าความเป็นกรด – ด่าง 5.5 – 7.0 (ถั่วเหลือง ถั่วเขียว) และ 5.5 – 6.0 (ถั่วลิสง)
ศัตรูธรรมชาติของแมลงสัตว์ศัตรูข้าวที่สำคัญพบทั่วไป ได้แก่ แมลงห้ำ แมลงเบียน แตนเบียน หนอนกอข้าว แมลงห้ำ แมลงห้ำมี 3 ชนิด คือ ด้วงเต่า แมลงปอ และมวนเขียวดูดไข่ ด้วงเต่า ตัวเต็มวัยมีลักษณะกลม ขนาดประมาณ 0.3 – 0.7 เซนติเมตร ด้านล่างแบนราบ ด้านบนโค้งนูน
ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาน้ำเค็มไหลเข้าพื้นที่การเกษตรหลายแห่ง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทำการเพาะปลูกพืชมากมาย และส่งผลกระทบต่อพืชโดยตรง เช่น ปลายใบไหม้ ต้นเหี่ยว และใบเหลือง ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรลดลง ซึ่งสาเหตุการเกิดน้ำเค็มในแต่ละภาคแตกต่างกันไป เช่น บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้