โครงการส่งเสริมการทำนาเชิงอุตสาหกรรม (นาแปลงใหญ่)

โครงการส่งเสริมการทำนาเชิงอุตสาหกรรม (นาแปลงใหญ่) คือ การส่งเสริมเกษตรกรให้รวมกลุ่มกันเพื่อผลิต ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง และสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ โดยไม่ได้รวมทุกแปลงเข้าด้วยกัน เพียงแต่เป็นการรวมกลุ่มกันเท่านั้น โดยภาครัฐจะเข้ามาส่งเสริมการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพข้าว และกิจกรรมการเกษตรอื่นๆ พัฒนาให้เป็นจุดเรียนรู้ การบริหารจัดการ เชิงอุตสาหกรรมครบวงจร ด้วยการถ่ายทอด เทคโนโลยีการผลิตข้าวที่ประณีตและเหมาะสมกับพื้นที่สู่เกษตรกรในชุมชน โดยวางเป้าหมายในระยะแรก 50 กลุ่มใน 20 จังหวัด โดยกลุ่มต้นแบบจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณต่างๆ ในพื้นที่ 5,200 ไร่ แบ่งเป็นการผลิตข้าวคุณภาพดี 5,000 ไร่ และผลิตพันธุ์ข้าว 200 ไร่


แนวทางปฏิบัติ

ในระยะเริ่มโครงการจะมีการคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ โดยมีหลักพิจารณาอยู่หลายประการ เช่นต้องมีการรวมกลุ่มเข้มแข็งพอสมควรแล้ว มีพื้นที่นาที่เป็นแปลงใหญ่ตั้งแต่ 1-2 ไร่/แปลงขึ้นไป

1. การปลูก

          – เขตชลประทาน นาโรย (ข้าวงอก) เป็นแถวเป็นแนว 

          – เขตอาศัยหน้าฝน นาหยอด (ข้าวเปลือก) เป็นแถวเป็นแนว 

2. ใช้เมล็ดพันธุ์ ข้าวคุณภาพดีตามมาตรฐานกรมการข้าว ชั้นพันธุ์ขยายหรือจำหน่าย 

3. ปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด/ไถกลบตอซัง/ปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก โดยผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง 

4. ใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือแผ่นเทียบสี

5. ป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน วางระบบพยากรณ์เตือนภัยศัตรูข้าวและผลิตสารชีวภัณฑ์/สารสมุนไพรใช้เอง 

6. จัดการน้ำที่เหมาะสม แบบเปียกสลับแห้งอย่างน้อยให้นามีสภาพแห้ง 1 ครั้ง ช่วงข้าวแตกกอสูงสุด ระบายน้ำเข้านาหลังหว่านปุ๋ย (แนะนำในเขตชลประทานหรือสามารถระบายน้ำออกแปลงนาได้)

7. เก็บเกี่ยวข้าวในระยะพลับพลึง ระบายน้ำออกก่อนถึงระยะเก็บเกี่ยว 7-10 วัน

กลุ่มเกษตรกรตัวอย่างที่เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเกษตรกรรมแปลงใหญ่ บ.โนนกระสัง ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ โดยในขณะนี้ทางกลุ่มได้เปลี่ยนรูปแบบการทำนาในหลายๆ อย่างตามคำแนะนำจากนักวิชาการของกรมการข้าวที่เข้ามาดูแลกลุ่ม มีการวางรูปแบบการดำเนินงานของกลุ่มที่เข้มแข็งขึ้น มีหน้าที่ของสมาชิกแต่ละคนชัดเจน โดยทำให้เห็นผลของการพัฒนาค่อยข้างดีในระยะเริ่มแรกนี้ โดยทางกลุ่มมีการดำเนินงานดังนี้

1. ต้องมีการประชุมกลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ เพื่อทำความเข้าใจและวางแผนร่วมกันในกลุ่มอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง

2. จะมีการเข้ามาสอน และเก็บข้อมูลแปลงนาจากกรมการข้าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการคัดพันธุ์ปน การเก็บและประเมินความสมบูรณ์ของข้าว

3. มีการจัดสรรเครื่องจักรกลการเกษตรภายในกลุ่มให้ทั่วถึง เป็นธรรม และมีระเบียบ โดยจะมีการทำบัญชีเครื่องจักรกลในกลุ่ม และจัดสรรการใช้งานแก่สมาชิก

4. มีการจัดหาสถานที่จำหน่ายผลผลิตทั้งในรูปแบบ เมล็ดพันธุ์ การเก็บสต๊อก การแปรรูป และช่องทางเพิ่มมูลค่าด้านอื่นๆ โดยปัจจุบัน ส่งขายเป็นข้าวเปลือกให้แก่โรงสีของ สหกรณ์เพื่อการเกษตรพิมาย แต่อนาคตเมื่อโรงสีในชุมชนเปิดทำงานจะหาช่องทางส่งขายในรูปแบบข้าวกล้อง

5. ร่วมกันหาแนวทางการลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต ทั้งการใช้นาหยอด (10 กก./ไร่) การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และการงดใช้จนสามารถผ่านมาตรฐาน GAP มาเป็นปีที่ 6 แล้ว

โดยจากการดำเนินงานในฤดูกาลเพาะปลูกนี้ ทำให้เห็นถึงต้นทุนที่ลดลงได้อย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของต้นทุนเมล็ดพันธุ์ที่จากเดิมใช้ 30 กก./ไร่ เมื่อทำนาหลอดก็ใช้เพียง 10 กก./ไร่ ต้นทุนค่าไถ่ดิน ค่าเก็บเกี่ยวก็จ้างเครื่องจักรกลการเกษตรได้ราคาที่ถูกลงเนื่อง จากไม่ต้องเสียค่าขนย้ายเครื่องจักรฯ  ค่าการดูแลรักษาวัชพืช โรค และแมลงก็ลดลงเนื่องจากข้าวเป็นแถวเป็นแนวง่ายต่อการจัดการดูแล นอกจากนี้จากการประเมินตัวอย่างของกรมการข้าว ยังชี้ให้เห็นว่าผลผลิตข้าวของปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมาก คือจากเดิมได้ข้าวเปลือกประมาณ 400 กก./ไร่ ปีนี้คาดการณ์แล้วว่าน่าจะได้ 500 – 600 กก./ไร่ ทำให้เกษตรกรเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน และคิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วที่จะเดินต่อไปในปีหน้า

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด (Corn borer : Ostrinia fumacalis Guenee) รูปร่างลักษณะ : หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด เป็นแมลงศัตรูสำคัญที่สุดชนิดหนึ่งของข้าวโพด โดยเฉพาะในไร่ที่มีการปลูกข้าวโพดมานานปี หรือในแหล่งที่มีการใช้สารฆ่าแมลงมาก เพราะจะไปทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แตนเบียนไข่ ซึ่งเป็นตัวคอย
พบมาก ในนาชลประทาน ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง สาเหตุ เชื้อไวรัส Rice Ragged Stunt Virus (RRSV) อาการ ต้นข้าวเป็นโรคได้ ทั้ง ระยะกล้า แตกกอ ตั้งท้อง อาการของต้นข้าวที่เป็นโรค สังเกตได้ง่าย คือ ข้าวต้นเตี้ยกว่าปกติ ใบแคบและสั้นสีเขียวเข้ม แตกใบใหม่ช้ากว่าปกติ แผ่นใบไม่สมบ
เพลี้ยกระโดดท้องขาว หรือเพลี้ยกระโดดข้าวโพด (White-Bellied Planthopper, Corn Planthopper) โดยเพลี้ยกระโดดท้องขาวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนและกาบใบ ทำให้ต้นข้าวโพดชะงักการเจริญเติบโต หากระบาดรุนแรงทำให้เกิดอาการใบไหม้ นอกจากนี้ยังขับถ่ายมูลหวาน ลงบนต้นพืชเป็นสาเหตุทำให้เกิดราดำ รูปร่างลักษณะ : ตัวเต็