ปลูกข้าวไม่ง้อปุ๋ยเคมี ข้าวงามดี มีกำไร

ในปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี ซึ่งทำให้เกิดต้นทุนในการผลิตสูง แต่ก็มีเกษตรกรหลายรายหันกลับมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองในนาข้าว โดยอาศัยหลักการพึ่งพากันของธรรมชาติ เกิดองค์ความรู้จากการสังเกตว่า พืชผักใบเขียวในส่วนยอดอ่อนๆ จะมีฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตอยู่ในปริมาณมาก เมื่อนำมาหมักให้เกิดการย่อยสลาย จะทำให้ได้ปุ๋ยชีวภาพที่มีทั้งแร่ธาตุอาหารพืช และฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต เมื่อใช้สูตรพืชหมักสีเขียวในช่วงการเจริญเติบโตก่อนออกรวง จะทำให้ข้าวในนาของตนงอกงาม แข็งแรง ต้านทานโรคโดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากดังนี้

การทำน้ำหมักชีวภาพจากพืชสีเขียวกระตุ้นการเจริญเติบโตก่อนข้าวออกรวง

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

          1. พืชตระกูลผักสีเขียว เช่น ผักบุ้ง, ผักกะหล่ำ และผักต่างๆ   3   กิโลกรัม

          2. พืชตระกูลหญ้า เช่น หน่อไม้อ่อน   2  กิโลกรัม

          3. หน่อกล้วย หรือต้นกล้วย     2   กิโลกรัม

          4. พืชตระกูลถั่ว เอาทั้งราก ต้น ใบ   2  กิโลกรัม

          5. กากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง   3  กิโลกรัม

          6. น้ำ (กรณีเลือกทำแบบสูตรน้ำ)   20  ลิตร

การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้เพื่อเพิ่มคุณภาพเมล็ดข้าว

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

           1. ฟักทองแก่   2   กิโลกรัม

           2. มะละกอสุก   2   กิโลกรัม

           3. กล้วยน้ำว้าสุก   2  กิโลกรัม

           4. ผลไม้สุกชนิดอื่นๆ   3  กิโลกรัม

           5. กากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง   3  กิโลกรัม

           6. น้ำ (กรณีเลือกทำแบบสูตรน้ำ)  20  ลิตร

ตารางการทำน้ำหมักชีวภาพ

วิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพ
1. หั่นพืชทุกชนิดให้มีความยาวประมาณ 1 – 2 นิ้ว เพื่อให้ย่อยสลายได้เร็วขึ้น

2. นำไปใส่ถังหมัก (สูตรแห้งหรือสูตรน้ำแล้วแต่การเลือกใช้) 

สูตรแห้ง นำพืชที่หั่นไว้ใส่ลงในถังแล้วคลุกเคล้าด้วยกากน้ำตาล และ พด.2

สูตรน้ำ นำกากน้ำตาลใส่ลงในถังแล้วใส่น้ำลงไป จากนั้นจึงนำเศษพืชใส่ลงไป คนให้เข้ากันดี

ในการหมักน้ำหมักหากใส่สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 กรมพัฒนาที่ดินแจกฟรี ร่วมด้วย 1 ซอง (25 กรัม) จะทำให้น้ำหมักชีวภาพย่อยสลายได้ดี และรวดเร็วขึ้น อีกทั้งมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 

3. ใช้ไม้ไผ่มาผ่าและสานเป็นตารางห่างๆ เพื่อทับให้เศษพืชที่หมักจมลงในน้ำ ปิดฝาถังแล้วนำไปวางไว้ในที่ร่ม ไม่ให้ถูกแดดหรือฝน

4. หมักทิ้งไว้ประมาณ 7 – 15 วันก็สามารถกรองเอาน้ำหมักไปใช้ได้

5. หากมีกลิ่นเหม็น หรือบูดเน่าให้เติมกากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดงลงไป แล้วคนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้  3-7 วัน กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นบูดเน่าจะหายไป เป็นกลิ่นคล้ายๆ น้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

เป็นกระแสรุนแรง สำหรับค่าฝุ่นละอองของประเทศไทยในช่วงนี้ เราได้ยินคำว่า PM 2.5กันทุกวัน ทำให้คนไทยมีความตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นละออง PM 2.5กันมากขึ้น ความหมายของ PM คือ Particulate Matter ฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เทียบง่ายๆ คือมลพิษฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า
“รู้ว่าใช้เคมีอันตราย แต่เห็นผลทันที อยากใช้ชีวภัณฑ์นะ แต่ออกฤทธิ์ช้า ไม่ทันการณ์”คำตอบที่มักคุ้นเคย แม้จะรู้พิษภัยของการใช้สารเคมี แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทำให้เกษตรกรจำนวนไม่น้อย ไม่อาจตัดใจเลิกใช้สารเคมีนั้นได้ แต่ในวันที่สารเคมีไม่สามารถจัดการศัตรูพืชได้ สารชีวภัณฑ์จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
มีคำกล่าวที่ว่า “เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” แต่สำหรับพี่น้องชาวนา การเริ่มต้นที่ดีนั้นหมายถึง โอกาสในการเพิ่มผลผลิต และเงินรายได้ในปีนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นห้องเรียนเกษตรในฉบับนี้จะนำเสนอวิธีการเพาะกล้าข้าวอย่างมืออาชีพ ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเพาะกล้าให้ได้กล้าข้าวที่มีคุณภาพ ปราศจากโรค และประหยัด