การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของแมลงกระเบื้อง ในสวนยางพารา

จากการสํารวจสวนยางเกษตรกรในพื้นที่จังหวัด กระบี่ ตรัง สตูล โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร สงขลา พบการแพร่กระจายของแมลงชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแมลงปีกแข็ง ลําตัวส่วนใหญ่ดําเข้าปกคลุมต้นยางตั้งแต่เหนือโคนต้นขึ้นไป และกระจายตัวอยู่รอบบริเวณพื้นดิน ซึ่งการกระจายตัวของแมลง สร้างความกังวลให้แก่ชาวสวนยางพารา และไม่สามารถกรีดยางได้เนื่องจากแมลงเข้าปกคลุม หน้ากรีด รวมทั้งก่อความรําคาญในขณะกรีดยางใน ช่วงเวลากลางคืน

พบว่าแมลงปีกแข็งดังกล่าวคือ แมลงกระเบื้อง มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ Mesomorphus villager Blanch และ M. vitalisi Chatanay แมลงชนิดนี้จะกินของเน่าเปื่อย ผุพัง เป็นอาหาร ระยะหนอนมีชีวิตอยู่ในดินและอยู่ในช่วงฤดูฝน คือเดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศชุ่มชื้น ตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ได้ 6-7 เดือน มีสีดําหรือสีน้ำตาลดํา ลําตัวเป็นรูปไข่ 

การเข้าทําลาย แมลงกระเบื้องเข้าทำลายพืชอาศัย เช่น กาแฟ ต้นกล้ายาสูบ ต้นยางพารา มะม่วง มะม่วงหิมพานต์ แมลงเข้าไปกัดกินรากของต้นไม้ดังกล่าวในระยะต้นกล้า จึงส่งผลให้ต้นกล้ายืนต้นตาย

ชนิดของสารเคมีกําจัด

การใช้สารเคมีในแปลงเกษตรกร แนะนําให้ ใช้สารเคมีดังต่อไปนี้

  1. คาร์บาริล (เซพวิล 85 wP) อัตราการใช้ 40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
  2. คาร์โบซัลแฟน (พอสซ์) อัตราการใช้ 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
  3. คลอร์ไพริฟอส (ลอร์สแบน 40EC) อัตรา การใช้ 400 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร

บทความที่เกี่ยวข้อง

การผลิตอ้อยมีหลายกิจกรรมที่ใช้แรงงานมาก และเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้นจำเป็นต้องบริหารจัดการแต่ละกิจกรรมให้ทันเวลา แต่ปัจจุบันปัญหาการขาดแคลนแรงงานไร่อ้อยทวีความรุนแรงมากขึ้น หากจะบริหารจัดการในไร่อ้อยให้มีประสิทธิภาพจะใช้แต่แรงงานคนนั้นอาจไม่ทันเวลา เครื่องจักรกลการเกษตรจึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่
มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เอกสารแนะนำ เลขที่ 2/2552 ธันวาคม 2552 เกษตรกรสามารถควบคุมเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง โดยใช้ชีววิธี มี 2 วิธี ได้แก่ การใช้เชื้อราบิวเวอเรียฉีดพ่น และการปล่อยตัวอ่อนแมลงช้างปีกใส ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติ