ความรู้พืชผลทางการเกษตรเพื่อเกษตรกรไทย

เลือกตามประเภทเนื้อหา
เกษตรกรยุคใหม่ใช้ KAS application ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ในหลายๆศาสตร์ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คงหนีไม่พ้นศาสตร์แห่งการเกษตร ศาสตร์ที่จะทำให้เกิดความอยู่ดีกินดีของคนในชาตินั่นเอง วันนี้ทางสยามคูโบต้าฯ มีโอกาสได้สัมภาษณ์เกษตรกรแนวคิดก้าว
เกษตรกรยุคใหม่ใช้ KAS application ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ในหลายๆศาสตร์ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คงหนีไม่พ้นศาสตร์แห่งการเกษตร ศาสตร์ที่จะทำให้เกิดความอยู่ดีกินดีของคนในชาตินั่นเอง วันนี้ทางสยามคูโบต้าฯ มีโอกาสได้สัมภาษณ์เกษตรกรแนวคิดก้าว
ได้แน่ได้ชัวร์ จัดไปเพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกร ในช่วงนี้โดยเฉพาะ หมายเหตุ ไม่จำกัดจำนวนไร่ในการใช้ต่อครั้ง จำกัดการใช้ 1 ครั้งต่อสมาชิก รถให้บริการเฉพาะคูโบต้าเท่านั้น สำหรับงานเตรียมดินเท่านั้น (ไถดะ ไถพรวน ปั่นดิน) หมดเขต 31 กรกฎาคม 2563 หรือจนกว่าโควตาจะหมด
ได้แน่ได้ชัวร์ จัดไปเพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกร ในช่วงนี้โดยเฉพาะ หมายเหตุ ไม่จำกัดจำนวนไร่ในการใช้ต่อครั้ง จำกัดการใช้ 1 ครั้งต่อสมาชิก รถให้บริการเฉพาะคูโบต้าเท่านั้น สำหรับงานเตรียมดินเท่านั้น (ไถดะ ไถพรวน ปั่นดิน) หมดเขต 31 กรกฎาคม 2563 หรือจนกว่าโควตาจะหมด
การลดความชื้นโดยใช้แสงอาทิตย์ คือ การใช้แสงอาทิตย์เป็นแหล่งความร้อน โดยมีการเคลื่อนที่ของอากาศเป็นตัวช่วยพาความชื้นออกจากเมล็ด ทำให้ความชื้นของเมล็ดลดลง เป็นวิธีการที่ประหยัด ไม่ยุ่งยากแต่มีข้อเสียคือใช้แรงงานและพื้นที่ในการตาก
การลดความชื้นโดยใช้แสงอาทิตย์ คือ การใช้แสงอาทิตย์เป็นแหล่งความร้อน โดยมีการเคลื่อนที่ของอากาศเป็นตัวช่วยพาความชื้นออกจากเมล็ด ทำให้ความชื้นของเมล็ดลดลง เป็นวิธีการที่ประหยัด ไม่ยุ่งยากแต่มีข้อเสียคือใช้แรงงานและพื้นที่ในการตาก
กำจัดข้าวเรื้อก่อนปลูก เตรียมแปลงโดยตากหน้าดินหลังเก็บเกี่ยวข้าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แล้วใช้โรตารี่หรือขลุบย่ำ กลบตอซัง (ไม่ควรใช้ผานไถเพราะจะกลบเมล็ดข้าวเรื้อลงใต้ดิน ยากต่อการกำจัด) จากนั้นระบายน้ำออกให้หน้าดินแห้ง 2 สัปดาห์ ล่อให้ข้าวเรื้องอกใช้ขลุบย่ำกลับข้าวเรื้อหมักไว้ 3-5 วันก่อนคราดทำเทือกปลูก
กำจัดข้าวเรื้อก่อนปลูก เตรียมแปลงโดยตากหน้าดินหลังเก็บเกี่ยวข้าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แล้วใช้โรตารี่หรือขลุบย่ำ กลบตอซัง (ไม่ควรใช้ผานไถเพราะจะกลบเมล็ดข้าวเรื้อลงใต้ดิน ยากต่อการกำจัด) จากนั้นระบายน้ำออกให้หน้าดินแห้ง 2 สัปดาห์ ล่อให้ข้าวเรื้องอกใช้ขลุบย่ำกลับข้าวเรื้อหมักไว้ 3-5 วันก่อนคราดทำเทือกปลูก
มันสำปะหลังพันธุ์ ห้วยบง 80 เป็นมันสำปะหลังที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของนักวิจัยจากภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย พันธุ์นี้เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างพันธุ์ระยอง 5 และเกษตรศาสตร์ 50 เริ่มแนะนำพันธุ์ให้เกษตรกรปลูกตั้งแต่ปี 2551 พันธุ์ห้วย
มันสำปะหลังพันธุ์ ห้วยบง 80 เป็นมันสำปะหลังที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของนักวิจัยจากภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย พันธุ์นี้เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างพันธุ์ระยอง 5 และเกษตรศาสตร์ 50 เริ่มแนะนำพันธุ์ให้เกษตรกรปลูกตั้งแต่ปี 2551 พันธุ์ห้วย
ดินทราย – เนื้อดินมีลักษณะหยาบ (ทรายจัด) – ความอุดมสมบูรณ์ต่ำมาก – การระบายน้ำดีมาก – พบมากในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับดินทราย ดินร่วนปนทราย – เนื้อดินค่อนข้างหยาบ – ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ – การระบายน้ำดี
ดินทราย – เนื้อดินมีลักษณะหยาบ (ทรายจัด) – ความอุดมสมบูรณ์ต่ำมาก – การระบายน้ำดีมาก – พบมากในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับดินทราย ดินร่วนปนทราย – เนื้อดินค่อนข้างหยาบ – ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ – การระบายน้ำดี
มันสำปะหลังพันธุ์ “พิรุณุ 1” พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของกรมวิชาการเกษตร สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 จากลูกผสมมันสำปะหลังรุ่นที่ 1
มันสำปะหลังพันธุ์ “พิรุณุ 1” พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของกรมวิชาการเกษตร สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 จากลูกผสมมันสำปะหลังรุ่นที่ 1
มันสำปะหลังพันธ์ใหม่ “พิรุณ 2” พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของกรมวิชาการเกษตร สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดลและศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตั้งแต่ 2549 จากลูกผสมมันสำปะหลัง รุ่น 1 ระหว่างพันธุ์
มันสำปะหลังพันธ์ใหม่ “พิรุณ 2” พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของกรมวิชาการเกษตร สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดลและศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตั้งแต่ 2549 จากลูกผสมมันสำปะหลัง รุ่น 1 ระหว่างพันธุ์
การจำแนกมันสำปะหลังพันธุ์ ระยอง1 ระยอง2 ระยอง3 ระยอง5 ระยอง7 ระยอง9 ระยอง11 ระยอง60 ระยอง72 ระยอง86-13 ระยอง90 พิรุณ1 พิรุณ2 ห้วยบง60 ห้วยบง80 ห้วยบง90 เกษตรศาตร์50 เกษตรศาสตร์72
การจำแนกมันสำปะหลังพันธุ์ ระยอง1 ระยอง2 ระยอง3 ระยอง5 ระยอง7 ระยอง9 ระยอง11 ระยอง60 ระยอง72 ระยอง86-13 ระยอง90 พิรุณ1 พิรุณ2 ห้วยบง60 ห้วยบง80 ห้วยบง90 เกษตรศาตร์50 เกษตรศาสตร์72
ลักษณะเด่น มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อายุ 8 เดือน ผลผลิตหัวสดสูงเฉลี่ย 4,632 กิโลกรัม/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ระยอง 5,ระยอง 7 ,ระยอง 72 และเกษตรศาสตร์ 50คิดเป็นร้อยละ 10, 18, 5 และ 4 ตามลาดับ เมื่ออายุ 8 เดือน เปอร์เซ็นต์แป้งสูงเฉลี่ย 29.2 สูงกว่าพันธุ์ระยอง 5 ,ระยอง 7 และระยอง 72คิดเป็น
ลักษณะเด่น มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อายุ 8 เดือน ผลผลิตหัวสดสูงเฉลี่ย 4,632 กิโลกรัม/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ระยอง 5,ระยอง 7 ,ระยอง 72 และเกษตรศาสตร์ 50คิดเป็นร้อยละ 10, 18, 5 และ 4 ตามลาดับ เมื่ออายุ 8 เดือน เปอร์เซ็นต์แป้งสูงเฉลี่ย 29.2 สูงกว่าพันธุ์ระยอง 5 ,ระยอง 7 และระยอง 72คิดเป็น
ปีนี้นับได้ว่าเป็นปีทองของมันสำปะหลัง สถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังในการเพาะปลูก ปี 2552/2553 นับรวมพื้นที่โดยประมาณได้ 7.2 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 26.41 ล้านตัน ซึ่งนับได้ว่าประเทศไทยสามารถผลิตมันสำปะหลังได้เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศไนจีเรีย และบราซิล แต่เมื่อเฉลี่ยค่าผลผลิตต่อจำนวนไร่ที่มีอยู่นี้
ปีนี้นับได้ว่าเป็นปีทองของมันสำปะหลัง สถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังในการเพาะปลูก ปี 2552/2553 นับรวมพื้นที่โดยประมาณได้ 7.2 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 26.41 ล้านตัน ซึ่งนับได้ว่าประเทศไทยสามารถผลิตมันสำปะหลังได้เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศไนจีเรีย และบราซิล แต่เมื่อเฉลี่ยค่าผลผลิตต่อจำนวนไร่ที่มีอยู่นี้
จุดกำเนิด ของการปลูกมันสำปะหลังเพื่อเลี้ยงโคนมในระบบอินทรีย์ของประเทศไทย เริ่มต้นจากกระแสการดูแลสุขภาพของคนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเกษตรกรต้องการลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน แหล่งน้ำ และอากาศ รวมถึงการตอบแทนคุณแผ่นดินซึ่งเป็นที่ทำกินตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
จุดกำเนิด ของการปลูกมันสำปะหลังเพื่อเลี้ยงโคนมในระบบอินทรีย์ของประเทศไทย เริ่มต้นจากกระแสการดูแลสุขภาพของคนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเกษตรกรต้องการลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน แหล่งน้ำ และอากาศ รวมถึงการตอบแทนคุณแผ่นดินซึ่งเป็นที่ทำกินตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
การปลูกมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นวันนี้จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ คุณอนันต์ บุญสมปอง บ้านเลขที่ 64/4 หมู่ 2 ต.จอระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี อดีตรองผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันได้ผันมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ซึ่งสามารถผลิตมันสำปะหลังสดได้
การปลูกมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นวันนี้จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ คุณอนันต์ บุญสมปอง บ้านเลขที่ 64/4 หมู่ 2 ต.จอระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี อดีตรองผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันได้ผันมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ซึ่งสามารถผลิตมันสำปะหลังสดได้
คณะกรรมการวัตถุอันตราย เห็นชอบ 6 มาตรการ จำกัดการใช้ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 ฉบับ ผู้เกี่ยวข้องมีดังนี้ เกษตรกรผู้ใช้ ผู้รับจ้างพ่น ผู้ขาย ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำเข้า/ผู้ผลิต กำหนดพืชที่อนุญาตให้ใช้ 3 สาร กำหนดข้อความในฉลาก แผนปฎิบัติการอบรม ตัวอย่างฉลากวัตถุอันตราย
คณะกรรมการวัตถุอันตราย เห็นชอบ 6 มาตรการ จำกัดการใช้ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 ฉบับ ผู้เกี่ยวข้องมีดังนี้ เกษตรกรผู้ใช้ ผู้รับจ้างพ่น ผู้ขาย ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำเข้า/ผู้ผลิต กำหนดพืชที่อนุญาตให้ใช้ 3 สาร กำหนดข้อความในฉลาก แผนปฎิบัติการอบรม ตัวอย่างฉลากวัตถุอันตราย