แก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน มีแต่ดอกตัวผู้

ปาล์มน้ำมันเป็นพืชยืนต้น พวก Monoecious Plant คือมีทั้งช่อดอกตัวผู้ และช่อดอกตัวเมีย อยู่ในต้นเดียวกัน แต่ช่วงเวลาการออกดอกไม่พร้อมกัน ช่อดอกตัวผู้ มีช่อดอกย่อยเป็นช่อยาวทรงกระบอก สีเหลืองจำนวนมาก ลักษณะคล้ายนิ้วมือและแต่ละดอกจะมีเกสรตัวผู้ปกติและมีเกสรตัวเมียเป็นหมัน ส่วนช่อดอกตัวเมียมีลักษณะของดอกอวบหนา และแต่ละดอกจะมีกาบหุ้ม ลักษณะเป็นหนามแหลม มีเปอร์เซ็นต์การ    ติดผล 60 ถึง 65 เปอร์เซ็นต์

ในการสร้างดอกตัวผู้หรือดอกตัวเมียของปาล์มน้ำมัน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นปาล์มในช่วงที่มันกำหนดเพศ (sex differentiation) โดยจะเกิดขึ้นในช่วง 20-22 เดือน ก่อนดอกบาน ถ้าช่วงนี้ตาดอกมีความสมบูรณ์ได้รับธาตุอาหาร น้ำ ปุ๋ย และแสงแดด จะเกิดเป็นดอกตัวเมีย ในทางตรงกันข้ามถ้าต้นปาล์มแล้งน้ำ ให้ปุ๋ยน้อย หรือไม่สมบูรณ์เพียงพอ ต้นปาล์มจะออกดอกตัวผู้ ซึ่งในการพัฒนาของตาดอกจนเป็นทะลายปาล์มจะใช้เวลานาน 14-22 เดือน (ตามอายุของปาล์ม) 

ดังนั้นการให้ปุ๋ยและน้ำกับปาล์มจะต้องได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดการพัฒนาของดอก โดยการใส่ปุ๋ย ให้น้ำกับปาล์มในวันนี้จะแสดงให้เห็นใน 1-2 ปี ข้างหน้า ดังนั้นอาการที่ปาล์มแสดงให้เห็นในวันนี้ จึงเป็นผลจากการกระทำเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา

แนวทางป้องกันและแก้ไข คือ เจ้าของสวนจะต้องบำรุงต้นปาล์มให้สมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีทะลายมาก จะต้องเพิ่มปริมาณปุ๋ยเพื่อให้ปาล์มมีอาหารเพียงพอในการเลี้ยงทะลายและเผื่อให้สร้างดอกตัวเมียไปพร้อมกัน ไม่ใช่แค่ปุ๋ยอย่างเดียวน้ำก็สำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ดังนั้นถ้าปลูกปาล์มในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น มีช่วงแล้งยาวมากกว่า 3 เดือน    ต้นปาล์มจะสร้างทะลายไม่ต่อเนื่อง มีการสร้างดอกตัวผู้มากกว่าดอกตัวเมีย ทำให้ได้ผลผลิตต่ำกว่าปาล์มที่ปลูกในพื้นที่ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และมีปริมาณฝนมากนั้นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประมาณการการผลิตและการใช้เอทานอลในตลาดโลก ปี ๒๐๑๔/๒๐๑๕ ISO คาดการณ์ว่า ผลผลิตเอทานอลของโลกในปี ๒๐๑๕ จะเติบโตขึ้น ๔% เป็น ๙๗ พันล้านลิตร ความต้องการใช้เอทานอลของโลก เพิ่มขึ้น ๖% จากจำนวน ๙๓.๑ พันล้านลิตรในปี ๒๐๑๔ เป็น ๙๖ พันล้านลิตรในปี ๒๐๑๕ ทั้ง ๆ ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ความเคลื่อนไหวของการผลิต
เมื่อพูดถึงการทำไร่อ้อยในช่วงเวลานี้ คงต้องเน้นคุยกันเรื่องการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ แต่ในปัจจุบันการเพิ่มผลผลิตโดยการขยายพื้นที่คงทำได้ยาก มีหลักการง่าย ๆ ที่สามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้โดยไม่ยาก แต่ต้องอาศัยข้อมูลพื้นฐานในพื้นที่ของตนเองประกอบกับเทคนิคต่าง ๆ อันเป็นที่ยอมรับว่าสามารถช่วยเพิ่มผลผลิต
ปัจจุบันผลผลิตทางการเกษตรประสบปัญหาสารเคมีมีตกค้างจากการใช้สารเคมีในกำจัดวัชพืช ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพต่อผู้ปลูกรวมถึงผู้บริโภค แต่เกษตรกรหัวก้าวหน้าท่านนี้มีนามว่า นายเสน่ห์ พันธ์ภูมิ อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 146 ม.1 ต.ศรีวิลัย อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับเลือกให้เป็นปราชญ์พร