ด้วงหนวดยาวอ้อย

ด้วงหนวดยาว จัดเป็นแมลงศัตรูอ้อยที่สำคัญต่อการปลูกอ้อย โดยสามารถเข้าทำลายอ้อยตั้งแต่ระยะเริ่มปลูกจนถึงระยะเก็บเกี่ยว โดยหนอนของด้วงหนวดยาวจะเข้าไปในส่วนของลำต้นอ้อยที่อยู่ใต้ดิน ทำให้อ้อยแห้งตาย ในอ้อยปลูกหากพบด้วงหนวดยาวเข้าทำลายจะส่งผลให้ผลผลิตอ้อยลดลง 13-43 % และน้ำตาลลดลง 11-46 % ส่วนอ้อยตอปีที่ 1 จะสูญเสียผลผลิตประมาณ 45 % และน้ำตาลลดลง 57 %

ลักษณะการเข้าทำลาย

ในระยะเริ่มปลูกอ้อยหนอนจะเจาะชอนไชเข้าไปกัดกินเนื้ออ้อยภายในท่อนพันธุ์ ทำให้อ้อยไม่สามารถงอกได้ หรือเมื่ออ้อยอายุ 3-4 เดือน เป็นช่วงเริ่มแตกกอ หนอนจะกัดกินบริเวณโคนอ้อยที่ติดกับเหง้า ทำให้หน่ออ้อยแห้งตาย ส่วนในอ้อยโตเป็นลำจะพบว่ากาบใบและใบอ้อยแห้งมากกว่าปกติ ตั้งแต่ใบล่างจนแห้งตายไปทั้งต้นหรือทั้งกออ้อย โดยหนอนขนาดเล็กกัดกินบริเวณเหง้าอ้อย เมื่อหนอนโตขึ้นจะเริ่มเจาะไชส่วนโคนของลำอ้อยขึ้นไปเพื่อกินเนื้ออ้อย ทำให้ลำต้นอ้อยเป็นโพรงเหลือแต่เปลือก ซึ่งส่งผลให้ลำต้นอ้อยหักล้มและแห้งตายได้

การป้องกันและกำจัด

1. เมื่อมีการไถที่เตรียมดิน ควรเก็บตัวหนอนออกจากพื้นที่ 1-2 ครั้ง

2. การควบคุมแบบชีววิธีโดยการใช้เชื้อราเมตาไรเซียม โรยลงบนท่อนพันธุ์พร้อมการปลูกอ้อย ในอัตราส่วน 20 กก./ไร่ โดยเชื้อราจะสามารถอยู่ในดินและป้องกันตัวหนอนได้เป็นปี

3. แหล่งที่มีการระบาด ควรมีการมใช้สารฆ่าแมลงฟิโพรนิล (Ascend 5 % SC) ในอัตราส่วน 80 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหลังวางท่อนพันธุ์ หรือไถคลุกตอนเตรียมดิน

4. ปลูกพืชหมุนเวียนสลับกับการปลูกอ้อย เช่น มันสำปะหลัง สับปะรด ปอเทือง เป็นต้น

5. ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนเป็นช่วงที่ด้วงหนวดยาวอ้อยเริ่มเป็นตัวเต็มวัยควรขุดหลุมเพื่อดักจับ ประมาณ 40 หลุม/ไร่ โดยเพศเมียจะปล่อยสารล่อเพศผู้ออกมา เพศผู้ก็จะเดินตาม เมื่อตกลงไปในหลุมก็ไม่สามารถขึ้นได้ ควรรองก้นหลุมด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเต็มวัยไปวางไข่

6. ส่งเสริมให้มีการนำหนอนด้วงหนวดยาวไปประกอบเป็นอาหาร

การแพร่ระบาด

พบมากในดินร่วนปนทราย ดินทรายที่มี pH 6.9 ดินมีอินทรียวัตถุ 1.15-1.22 %

บทความที่เกี่ยวข้อง

ศัตรูธรรมชาติของแมลงสัตว์ศัตรูข้าวที่สำคัญพบทั่วไป ได้แก่ แมลงห้ำ แมลงเบียน แตนเบียน หนอนกอข้าว แมลงห้ำ แมลงห้ำมี 3 ชนิด คือ ด้วงเต่า แมลงปอ และมวนเขียวดูดไข่ ด้วงเต่า ตัวเต็มวัยมีลักษณะกลม ขนาดประมาณ 0.3 – 0.7 เซนติเมตร ด้านล่างแบนราบ ด้านบนโค้งนูน
โครงการส่งเสริมการทำนาเชิงอุตสาหกรรม (นาแปลงใหญ่) คือ การส่งเสริมเกษตรกรให้รวมกลุ่มกันเพื่อผลิต ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง และสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ โดยไม่ได้รวมทุกแปลงเข้าด้วยกัน เพียงแต่เป็นการรวมกลุ่มกันเท่านั้น โดยภาครัฐจะเข้ามาส่งเสริมการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพข้าว และกิจกรรมการ
การจำแนกมันสำปะหลังพันธุ์ ระยอง1 ระยอง2 ระยอง3 ระยอง5 ระยอง7 ระยอง9 ระยอง11 ระยอง60 ระยอง72 ระยอง86-13 ระยอง90 พิรุณ1 พิรุณ2 ห้วยบง60 ห้วยบง80 ห้วยบง90 เกษตรศาตร์50 เกษตรศาสตร์72