วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี ร่วมทำแปลงทดสอบพืช 3 ชนิด ชูจุดเด่นลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้จริง

กว่า 39 ปีของการดำเนินธุรกิจ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ไม่เคยหยุดยั้งที่จะส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความรู้ความสามารถในการทำเกษตรอย่างรอบด้าน โดยการนำ KUBOTA (Agri) Solutions ทุกคำตอบเรื่องการเกษตร มาช่วยยกระดับเกษตรกรรมไทย ด้วยนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ ตั้งแต่การปฏิรูปพื้นที่เพาะปลูก การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการขนส่งผลผลิต เพื่อช่วยเกษตรกรในการลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต และรายได้ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

ล่าสุด สยามคูโบต้า ได้นำองค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions  ไปต่อยอดและพัฒนาที่วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี  โดยการทำแปลงทดสอบเปรียบเทียบระหว่างวิธีแบบดั้งเดิมของเกษตรกร และวิธีการของ KUBOTA (Agri) Solutions เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืช ซึ่งได้นำร่องใน 3 พืช ได้แก่ ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง โดยมุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตเป็นหลัก

สำหรับการทำแปลงทดสอบข้าว เกษตรกรในพื้นที่มีวิธีปลูกข้าวแบบดั้งเดิมด้วยการดำนามือ 70% และทำนาหว่าน 30% และสยามคูโบต้าพบว่ามีเกษตรกรบางส่วนขาดองค์ความรู้ด้านการใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพดิน ทำให้ได้ผลผลิตตกต่ำ สยามคูโบต้า จึงได้ทำการทดสอบการปลูกข้าว ด้วยการใช้รถดำนาทดแทนการดำมือ และยังใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัด *ให้เหมาะสมกับค่าวิเคราะห์ดิน ภายหลังจากการปลูกด้วยวิธี KUBOTA (Agri) Solutions ผลการทดสอบ พบว่า ผลผลิตจากวิธีการของสยามคูโบต้ามีปริมาณ 733 กิโลกรัม/ไร่ ได้กำไรประมาณ 5,001 บาท/ไร่ ส่วนการปลูกข้าวแบบวิธีดั้งเดิมได้ผลผลิตปริมาณ 694 กิโลกรัม/ไร่  ได้กำไรประมาณ 3,923 บาท/ไร่** 

นอกจากนี้ ในแปลงทดสอบข้าว สยามคูโบต้ายังได้ปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อให้เกษตรกรเห็นโอกาสของการสร้างรายได้เพิ่ม เนื่องจากถั่วเหลืองอาจขายได้กำไรถึง 1,000 บาท/ไร่ และการปลูกถั่วเหลืองยังเป็นการบำรุงดิน อันเป็นประโยชน์ต่อการปลูกข้าวในครั้งต่อไป

ทั้งนี้ ในปี 2559 สยามคูโบต้า ได้เสนอวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า เป็นกลุ่มแปลงใหญ่ประชารัฐ เกษตรสมัยใหม่ในกลุ่มข้าว เนื่องจากมีรูปแบบการพัฒนาที่สอดคล้องกับวิธี KUBOTA (Agri) Solutions ซึ่งปัจจุบันถือว่าประสบความสำเร็จในเรื่องของการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในนาข้าวได้จริง

ในส่วนของแปลงทดสอบอ้อย วิธีดั้งเดิมของเกษตรกรส่วนใหญ่มีขั้นตอนการเตรียมดินที่ลึกไม่เพียงพอ ทำให้อ้อยไม่ค่อยทนแล้ง และมีวิธีการปลูกอ้อยแบบร่องแคบ ทำให้ต้องใช้แรงงานคนใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืช ทำให้ไม่สามารถดูแลรักษาได้อย่างทั่วถึง สยามคูโบต้าจึงได้ทำแปลงทดสอบอ้อย โดยเน้นการเตรียมดินด้วยวิธีระเบิดดินดาน เพื่อให้ดินเก็บความชื้นได้เพียงพอในการปลูกอ้อยให้เติบโตในช่วงผ่านแล้ง และใช้เทคโนโลยีเครื่องปลูกอ้อยแบบขยายร่องให้กว้างขึ้น เพื่อให้แทรกเตอร์ขนาดเล็กเข้าไปใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืชได้ ภายหลังจากการปลูกด้วยวิธี KUBOTA (Agri) Solutions พบว่าได้ผลผลิตปริมาณ 20.6 ตัน/ไร่ ได้กำไรประมาณ 8,737 บาท/ไร่ ส่วนการปลูกแบบดั้งเดิมได้ผลผลิต 15.9 ตัน/ไร่ ได้กำไรประมาณ 5,248 บาท/ไร่**

ทางด้านแปลงทดสอบมันสำปะหลัง การปลูกแบบดั้งเดิมของเกษตรกร มักพบปัญหาเรื่องการเตรียมดินที่มีความลึกไม่เพียงพอ และใช้ต้นทุนแรงงานในการปลูกที่สูง สยามคูโบต้า จึงเริ่มทำแปลงทดสอบด้วยการใช้วิธีระเบิดดินดาน เพื่อให้ดินกักเก็บความชื้นเช่นเดียวกับแปลงทดสอบอ้อย และใช้เครื่องปลูกมันสำปะหลังทดแทนแรงงานคน ซึ่งวิธีการปลูกโดยใช้แรงงานคนจะมีการปักเอียงและระยะการปลูกไม่สม่ำเสมอ เมื่อใช้เครื่องปลูกมันสำปะหลัง จะทำให้ปักกิ่งได้ตรง และสม่ำเสมอกัน นอกจากนี้ ยังมีการใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ดินอีกด้วย ซึ่งการปลูกด้วยวิธี KUBOTA (Agri) Solutions พบว่า ได้ผลผลิตปริมาณ 7.2 ตัน/ไร่ ได้กำไรประมาณ 539 บาท/ไร่ ส่วนการปลูกแบบดั้งเดิมได้ผลผลิตปริมาณ 6.1 ตัน/ไร่ และขาดทุนประมาณ 1,151บาท/ไร่**  เนื่องจากในปี 2559 ได้เกิดวิกฤตราคามันสำปะหลังตกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

ความสำเร็จจากการทำแปลงทดสอบร่วมกับเกษตรกรในครั้งนี้   วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรที่น่าสนใจ โดยพร้อมจะเปิดโอกาสให้เกษตรกรและชุมชนอื่นๆ ได้เข้ามาศึกษาวิธีการทำเกษตร เพื่อให้เกิดการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

สำหรับเกษตรกรและผู้ที่สนใจท่านใดอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรมด้วยองค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่ www.kubotasolutions.com   และสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้และพัฒนาการเกษตรของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป

* องค์ความรู้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดจาก ศ.ดร.ทัศนีย์ อัตตะนันทน์ และคณะ
** ตัวเลขได้จากผลการทดสอบ ณ แปลงทดสอบวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี  โดยการปลูกข้าวเริ่มในช่วง 1 มิ.ย. 59, การปลูกอ้อยเริ่มในช่วง 20 เม.ย. 58 และมันสำปะหลังเริ่มในช่วง 18 ต.ค.58  ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกันทั้งสองวิธี โดยผลการทดสอบอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อม ลักษณะการดูแลรักษา และสภาพดิน

Tag:

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน สยามคูโบต้า ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์กรที่ส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรไทย ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจในการทำการเกษตรอย่างรอบด้านอีกด้วย โดยมีโครงการ KUBOTA (Agri) Solutions หรือเรียกย่อว่า KAS ระบบการจัด
โครงการ KUBOTA (Agri) Solutions ระบบการจัดการเกษตรกรรมแบบครบวงจรโดยคูโบต้า ด้วยการนำระบบการทำงานมาผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างเทคนิคด้านการเกษตร (Agriculture Solutions) และการจัดการเครื่องจักรกลการเกษตร (Machinery Solutions) ช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และมีรายได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็
บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัดเผยยอดขายทั้งตลาดในประเทศและส่งออกปี 2559 มียอดขายรวมปิดที่ 50,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปี 2560 เติบโตขึ้น 10% ประกาศรุกตลาดพืชไร่อย่างต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทยให้เป็นเกษตรกรรม 4.0 ด้วยแนวคิด KUBOTA (Agri) Solutions นายฮิโรโตะ คิมุระกรรมการ